รักษ์สุขภาพ - ตอนที่ 1 อารัมภบท (1)

เหตุการณ์หนึ่งเป็น Drama [ละคร] สะเทือนวงการแพทย์อเมริกัน หลังจากศัลยประสาทแพทย์ (Neurosurgeon) ท่านหนึ่ง อัดคลิปลงใน YouTube เป็นเวลา 48 นาที กลายเป็น Viral [แพร่หลายอย่างรวดเร็ว] ที่มีคนดู 10 ล้านครั้ง เล่าถึงสาเหตุว่า ทำไมเขาถึงเลิกเป็นแพทย์ มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ (Critics) กันอย่างล้นหลาม (Overwhelm) ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

เขาเป็นแพทย์จบ MIT (Massachusetts Institute of Technology) อันมีชื่อเสียงกระฉ่อนโลก โดยเรียนแพทย์ 4 ปี แล้วเรียนต่อด้านศัลยกรรมระบบประสาท (Neurological) และสมองอีก 6 ปี ซึ่งเป็นสาขาที่มีการแข่งขันสูง เพื่อให้เข้าเรียนได้ หลังจบการศึกษา เขาทำงานเป็นแพทย์ศัลยกรรมประสาท (Neuro surgeon) อีก 10 ปี จากนั้นก็ตัดสินใจเลิก (Quit) เป็นวิชาชีพแพทย์โดยเด็ดขาด

ตอนนั้นไม่มีใครเข้าใจว่า ทำไมเขาถึงการตัดสินใจเลิก ต่อมาเขาเปิดเผยในรายการ Goobie and Doobie ว่า ตอนที่เขาเข้าเรียนแพทย์ มีพิธีกรรม (Ritual) หนึ่งที่นักศึกษา ต้องกล่าวคำปฏิญาณตนต่อ Hippocrates  [บิดาแห่งการแพทย์ปัจจุบัน] และอาจารย์อาวุโสท่านหนึ่ง กล่าวว่างานของแพทย์ คือการบรรเทา (Alleviate) ความทุกข์ทรมาน (Suffering) ของผู้อื่น

โดยมิใช่การผ่าตัด (Surgery) หรือการให้ยา (Medication) นั่นเป็นแรงบันดาลใจให้เขาตลอดมา ตอนเรียนผ่าหลัง (Spine) เขาได้เรียนเทคนิคการผ่าตัดขั้นสูง (Advanced) ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น GPS [Global positioning system] นำทางการผ่าตัดผ่านการส่องกล้อง (Endoscopic) เพื่อให้เกิดแผลเล็ก จากการรุกล้ำร่างกายน้อยสุด (Minimally-invasive) จนเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expert)

หลังจบการศึกษา (Graduation) มาทำงานจริงๆ ภายใต้ระบบสาธารณสุข (Public health) อเมริกัน เขากลับรู้สึกไม่มีความสุข (Unhappiness) ไม่เป็นอย่างที่เขาตั้งใจ (Intent) ไว้ตอนแรก ดูจากภายนอก (Surface) ทุกอย่างเหมือนจะดีมาก เพราะเป็นอาชีพที่ผู้คนต่างนับหน้าถือตา (Respect) และรายได้สูงมาก

เขาเล่าว่า การผ่าตัดคือการตัด (Incision) บางอย่างออก เช่น ตัดกระดูกที่ยื่นกดเส้นประสาท (Sedation) หรือการใส่อวัยวะเทียม (Prothesis) เข้าไปเพิ่ม เช่น ใส่ไททาเนียมยึดกระดูก หลังผ่าตัดคนไข้มานานนับ 10 ปี เขาเริ่มรู้สึกว่าการผ่าตัดหรือให้ยา อาจจะช่วยบรรเทาอาการได้ชั่วคราว  (Temporary) เท่านั้นแต่ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ (Root cause) ของปัญหาจริงๆ

ปัญหาดังกล่าว คือความเสื่อมสภาพ (Deterioration) ของร่างกาย แม้เขาจะผ่าตัดได้อย่างไม่มีที่ติ (Perfectly) คนไข้บางคนอาการดีขึ้น (Improve) บางคนอาการทรงเดิม แต่บางคนอาการแย่ลง ผลลัพธ์ (Outcome) ของการผ่าตัดในชีวิตจริงไม่เป็นอย่างที่เขาเคยคาดคิด (Expect) ที่อยากช่วยคนให้บรรเทาจากความทุกข์ทรมาน

เขาตระหนักว่าระบบทางการแพทย์ทันสมัย (Modern medicine) ทั่วโลก กลายเป็นเพื่อเป้าหมายทางธุรกิจ ยิ่งผ่าตัดมากและยิ่งส่งตรวจเพื่อวินิจฉัย (Diagnosis) มาก และก็ยิ่งจ่ายยามาก รายได้เข้าระบบก็มากขึ้น ทั้งที่หลายอย่างอาจไม่จำเป็น (Unnecessary) หรือช่วยให้อาการดีขึ้นเพียงชั่วคราว (Temporary)

บางครั้งการแนะนำ (Recommendation) ให้ผ่าตัด ไม่ได้ตรงข้อบ่งชี้ (Indication) 100% การให้การศึกษา (Education) เพื่อป้องกันโรค (Preventive) ถูกลดบทบาท (Role) ลง แต่ให้ความสำคัญกับการสั่งยาและการผ่าตัดมากขึ้น

แหล่งข้อมูล -

  1. https://www.youtube.com/watch?v=25LUF8GmbFU&t=11s [2025, January 21].
  2. สันต์ ใจยอดศิลป์, นพ. (2560). สุขภาพดีด้วยตัวคุณเอง: Good Health by Yourself (eBook). พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: บริษัท พิมพ์สวย จำกัด.